ยอดพุ่งทะลุติดเพดานแน่นอน กับสุดยอดเทคนิคทุกเรื่องการขาย ที่คนเป็นเซลต้องรู้เอาไว้!

Riki Kimura wisible author

Riki Kimura

Digital Marketing Executive at Wisible

ยอดพุ่งทะลุติดเพดานแน่นอน กับสุดยอดเทคนิคทุกเรื่องการขาย ที่คนเป็นเซลต้องรู้เอาไว้!
ยอดพุ่งทะลุติดเพดานแน่นอน กับสุดยอดเทคนิคทุกเรื่องการขาย ที่คนเป็นเซลต้องรู้เอาไว้!

นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน ก็ใกล้จะเข้าถึงวาระของการปิดยอดควอเตอร์ปลายปีกันอีกครั้งซะแล้ว เหล่าเซลทีมทั้งหลาย ก็คงจะอยู่ในช่วงแห่งการตระหนกตกตื่น เพื่อปิดการขายต่างๆ ให้ทันเวลา และยิ่งถ้าการทำงานของเราเป็นไปอย่างไร้ระบบล่ะก็ บอกได้เลยว่างานนี้ ทำอะไรก็ไม่มีทางทันแน่นอน เราก็เลยนำสุดยอดเทคนิคทุกเรื่องการขายที่คนเป็นเซลต้องรู้มาฝากกัน จะมีอะไรบ้าง และทั้ง 7 เรื่องจะเจ๋งขนาดไหนนั้น อยากรู้ต้องตามไปอ่านให้ครบกันเลยนะ! 

1. ใกล้จะถึงช่วงปิดควอเตอร์แล้ว จะทำยังไงดีให้ได้ยอดทะลุปังๆ !

ฟังความต้องการของลูกค้าให้ดี

ในส่วนนี้ อาจจะต้องพึ่งพาเครื่องมือสุดเทพอย่างระบบ CRM เข้ามาใช้เพื่อตรวจสอบดูว่า ลูกค้าแต่ละคนกำลังต้องการอะไรกันบ้าง อย่างเช่น Pardot, Marketo และ Eloqua อีกทั้งการนำเทคโนโลยีที่ช่วยดูเรื่องยอดขายอย่าง TinderBox และ Yesware เข้ามาช่วยดูพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าในปัจจุบันด้วยล่ะก็ จะช่วยให้การทำงานของเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง

ให้ความสำคัญกับลูกค้าให้ถูกกลุ่ม

จำไว้เสมอว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าพวกกลุ่มธุรกิจองค์กรซะมากกว่า ดังนั้น เราจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่มีอำนาจในการตัดสินใจและสามารถเซ็นเอกสารต่างๆ ให้เราได้ทันที จะเป็นประโยชน์ต่อเราที่สุด

ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

สำหรับช่วงนี้ ทุกๆ วินาทีเป็นสิ่งสำคัญ ลองใช้เทคโนโลยีอย่าง DocuSign เข้ามาช่วยเรื่องเอกสารดูสิ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ลูกค้าก็สามารถเซ็นสัญญาซื้อขายผ่านแอปฯ นี้ได้อย่างทันควัน เพื่อลดโอกาสในความผิดพลาดและยังช่วยอัปเดตข้อมูลใน CRM ได้อย่างตลอดเวลาได้อีกด้วย

2. 6 เรื่องที่ต้องรู้ หากอยากเป็นสุดยอดเซลขายระดับพันล้าน!

แชร์ข้อมูลทุกอย่าง

คนที่เป็นสุดยอดเซล จะมีนิสัยชอบแชร์ โดยจะพูดหรือบอกข้อมูลทุกอย่างที่ตัวเองรู้ให้คนนทีมฟัง หรือไม่ก็ชอบทำงานกับคนเยอะๆ ซึ่งก็ไม่แปลกที่คนพวกนี้ จะมีนิสัยเฟรนด์ลี่สุดๆ นั่นเอง

ให้ความสำคัญกับพ่อแม่

เพราะพวกเค้ามองว่า พ่อแม่ คือ ผู้มีอิทธิพลสูงสุดในการทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

พวกเค้าจะขี้กังวล เมื่อเวลาปิดการขายได้

ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก เวลาที่ปิดการขายได้ ใครๆ ก็ต่างอยากได้ยอดเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้น สุดยอดเซลส่วนใหญ่ ก็จะรู้สึกกังวลว่าจะทำยังไงต่อดี วางแพลนยังไงดีให้สามารถเก็บยอดเพิ่มขึ้นได้อีก อะไรทำนองนั้น

พวกเค้าจะรักการทำงานที่มีความเป็นกันเองมากๆ

ใครๆ ก็ชอบทำงานกับคนในทีมที่รู้สึกให้ความเป็นกันเองกันทั้งนั้น เหล่าสุดยอดเซลก็คิดอย่างงั้นเช่นกัน ยิ่งถ้าได้ทำงานในสภาพแวดล้อม ที่รายล้อมไปด้วยลูกน้องและบอสที่น่ารักและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จะยิ่งทำให้ผลงานออกมาดีมากยิ่งขึ้นไปในตัวด้วยนั่นเอง

กลัวฟีดแบกติดลบ

คนที่เป็นระดับสูงๆ ก็กลัวความผิดพลาดกันเป็นธรรมดา เพราะยิ่งคาดหวังไว้สูง พวกเค้าจึงกลัวการได้ยินฟีดแบกที่แย่ๆ และติดลบเป็นอย่างมากไปในตัวนั่นเอง

พวกเค้าสามารถกลายร่างเป็นนางมารได้ทันที หากมีเรื่องกระทบกระทั่ง

ก็เหมือนเวลาที่เราตั้งใจทำอะไรสักอย่างมากๆ แล้วดันได้รับฟีดแบกที่ไม่ดี หรือยิ่งเจอเพื่อนร่วมงานเอาเปรียบเอาชังล่ะก็ พวกเค้าก็จะโนสนโนแคร์ และพร้อมกลายร่างเป็นนางมารเพื่อปกป้องตัวเองได้แบบตลอดเวลา

3. ทำงานเป็นเซล ต้องมีนิสัย 3 ข้อนี้ ทำให้ชิน แล้วจะโตเอง!

เราต้องลดค่าการคืนของ

ในการที่เราขายสินค้าให้กับลูกค้าไปแล้วนั้น เป็นใครก็ไม่อยากจะให้ลูกค้าตีกลับของมาคืนจริงมั้ยล่ะ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อองค์กรแล้วนั้น สิ่งเหล่านี้ยังกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทอีกต่างหาก ดังนั้น เราต้องหัดรู้จักวางแผนในเรื่องนี้ให้เป็นด้วยเช่นกัน เพราะถือเป็นกลยุทธ์ที่คนทำงานทีมเซล จะต้องรู้จักการวางแผนให้ดี

ลืมไปเลยเรื่องเงิน OT

สำหรับคนทำงานเป็นเซล ก่อนที่เราจะก้าวเข้ามาทำงาน เราต้องรู้กันดีอยู่แล้วว่า คนทำงานตรงนี้ ต้องให้ความสำคัญกับการทำยอดหนักหน่วงขนาดไหน ดังนั้น การที่จะต้องนั่งทำงานจนดึกดื่นต่อนั้น จึงเป็นเรื่องที่ปกติเอามากๆ ซึ่งหากว่าเราจะไม่ได้เงินค่า OT นั้น ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องเก็บมาโวยวายกับทางองค์กรเสมอไป เพราะการได้ค่าคอมจากการปิดการขายได้นั้น ก็นับว่าเป็นผลตอบแทนอันคุ้มค่าที่เราได้จากบริษัทมามากพอแล้วนั่นเอง

ใช้ Social Media ให้เป็นประโยชน์

เพราะสมัยนี้ คนเป็นเซล ไม่ได้จำเป็นต้องลุกออกจากออฟฟิศ เพื่อไปขับรถวิ่งหาลูกค้ากันเสมอไปแล้ว แค่นั่งอยู่กับโต๊ะ แล้วช่วยสื่อ Social Media เนี่ยแหละ นำมาใช้หาลูกค้า เพื่อปิดการขายกันได้เลย ขอแค่ใช้เทคนิคการขายที่มีติดตัวมาช่วยให้เป็นก็เพียงพอแล้ว

4. อย่าหวังแต่พึ่งทีมการตลาด เพื่อช่วยอัปยอดขายเสมอไป

เพราะจริงๆ แล้ว คนเป็นทีมตลาด จะดูในเรื่องการเรียกลูกค้าให้เข้ามาติดใจและเกิดเป็นการซื้อสินค้าการบริการของเรา แต่เมื่อเทียบกับคนเป็นเซลแล้วนั้น เราจะต้องดูทุกๆ อย่าง ตั้งแต่เรื่องของการติดต่อลูกค้าเพื่อเสนอการขาย การสังเกตพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ยันสามารถปิดการขายได้แบบเสร็จจบ ซึ่งสิ่งๆ นี้แหละ ก็คือ Sale Pipeline หรือสิ่งที่คนเป็นเซล ควรให้ความสำคัญมาเป็นที่หนึ่ง

5. ทำไมเซลควรให้ความสำคัญกับการสร้างมิตรภาพอันดีงามกับลูกค้า

เพราะขึ้นชื่อว่าเซลมาคู่กับการสร้างมิตรภาพและการผูกมิตรอันดีงามกับลูกค้า แต่คนส่วนใหญ่มักจะลืมประเด็นตรงนี้ไป แล้วไปเน้นที่จำนวนลูกค้าเข้าซะแทน ซึ่งจริงๆ แล้ว การคีปความสัมพันธ์กับลูกค้าต่างหากล่ะ ที่เป็นเรื่องสำคัญของคนเป็นเซลที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

หยุดพิมพ์ แล้วหันมาใช้การคุยแทน

เนื่องจากการพิมพ์ ลูกค้าไม่ได้รับรู้ Mood & Tone ที่เราต้องการจะสื่อ ลูกค้าอาจจะรู้สึกไม่อยากซื้อขึ้นมาซะดื้อๆ ก็ได้ แต่ถ้าเราใช้การโทรศัพท์คุย หรือออกไปพบปะให้ลูกค้าได้ยินเสียงซะแทนนั้น จะช่วยดึงดูดให้ลูกค้ารู้สึกอยากซื้อ อยากรู้จักเราต่อได้มากขึ้นนั่นเอง

การบอกต่อเล่าขาน คือ การขายที่แท้จริง

เมื่อเราได้สร้างความสัมพันธ์อันดีงามกับลูกค้าอย่างแน่นแฟ้นแล้วนั้น ก็จะกลายเป็นความสนิทและไว้ใจกันมากขึ้น ซึ่งตรงนี้แหละ ลูกค้าก็จะเกิดเป็นการบอกต่อให้กับคนรอบข้าง ก็จะทำให้เราสามารถทำยอดต่อได้อีก โดยที่ไม่ต้องไปวิ่งเต้นหาลูกค้าเองให้เหนื่อยกายเพลียใจเลยนั่นเอง

6. หยุดเป็นตัวตลก

คนเป็นเซล แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เวลาที่ออกไปขายสินค้ากับลูกค้า แล้วต้องมีการสาธิตหรืออธิบายการใช้งานสินค้าให้กับลูกค้าดู ซึ่งแม้กระทั่งเรื่องของการสาธิตเอง ก็สำคัญเหมือนกันนะ ลองไปดูกันว่ามันสำคัญยังไง

เพราะการกระทำของเรา มีผลต่อชื่อเสียงของบริษัทเสมอ ดังนั้น เราควรจะทำการสาธิตการใช้งานให้กระชับฉับไว และต้องดึงเฉพาะจุดที่เป็นเรื่องที่น่าสนใจออกมาพูดเท่านั้น ไม่อย่างงั้น ลูกค้าจะรู้สึกเบื่อและกลายเป็นความไม่อยากซื้อขึ้นมาซะแทน

7. การตัดสินใจซื้อระบบเทคโนโลยีต่างๆ ของทีมเซล

ในการตัดสินใจซื้อระบบเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อนำมาใช้เป็นตัวช่วยให้การอัปยอดขายนั้น หลักๆ แล้ว จะมาจากการตัดสินใจ

พินิจวิเคราะห์จากข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ตัวระบบสามารถนำมาใช้เพิ่มพื้นฐานในการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าได้ดีพอมั้ย
  • ลูกค้าส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับคุณภาพและการบริการหลังการขาย ดังนั้น ถ้าหากระบบสามารถช่วยให้การทำงานตรงนี้ง่ายขึ้นก็จะเป็นที่น่าสนใจ
  • สามารถใช้ระบบตรงนี้มาช่วยในด้านการสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้นมั้ย
  • ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าในปัจจุบัน จะซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์กันมากขึ้น เพราะสะดวกสบาย ซึ่งถ้าตัวระบบ CRM สามารถตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้ได้ครบ ก็จะเป็นที่ต้องการของเหล่าทีมเซลกันอย่างแน่นอน

และทั้ง 7 เรื่องนี้แหละ ก็คือ สุดยอดเทคนิคของคนชาวเซลที่กำลังฝันใฝ่อยากกลายเป็นสุดยอดเซลขายระดับพันล้าน ซึ่งถ้าหากเรามีเทคนิคการขายที่ตรงจุดและสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างถูกต้อง ตามเทคนิคทั้งหลายทั้งแหล่ที่ได้กล่าวไปทั้งหมดนี้ล่ะก็ บอกได้เลยว่างานนี้ ความฝันในการเป็นสุดยอดเซลระดับประเทศไปหลุดหายไปไหนไกลแน่นอน!

ที่มา: https://blog.sellingpower.com/gg/inside-sales/

ติดตามข่าวสารและสาระดี ๆ เกี่ยวกับระบบ CRM ได้ที่นี่

Similar Posts