Sales Forecasting คืออะไร และทำไมธุรกิจยุค AI ต้องใช้

Riki Kimura wisible author

Riki Kimura

Digital Marketing Executive at Wisible

Sales Forecasting คืออะไร?และทำไมธุรกิจยุค AI ต้องใช้

เมื่อ Jensen Huang เจ้าพ่อชิป AI แห่ง Nvidia บอกว่า “คุณต้องหา Early Indicators ที่บอกอนาคตธุรกิจได้ล่วงหน้า” มันทำให้เรานึกถึงคำถามที่หลายเจ้าของธุรกิจ B2B ถามตัวเองทุกสิ้นเดือน: “เดือนหน้ายอดขายจะถึงเป้าหรือเปล่า?” หากคำตอบคือ “ไม่แน่ใจ” แสดงว่าคุณต้องการ Sales forecasting ที่แม่นยำเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในยุค AI

แต่ sales forecasting คืออะไรกันแน่? และทำไมเครื่องมือเก่า ๆ อย่าง Excel ถึงไม่เพียงพอในยุคที่ Revenue Automation AI เข้ามาเปลี่ยนเกมการแข่งขัน

Sales Forecasting คืออะไร? พื้นฐานการพยากรณ์ยอดขาย

Sales forecasting หรือ “การพยากรณ์ยอดขาย” คือ กระบวนการใช้ข้อมูลประวัติการขาย พฤติกรรมลูกค้า และปัจจัยทางธุรกิจเพื่อคาดการณ์รายได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งแตกต่างจากการเดาหรือประมาณการแบบดั้งเดิม

จากประสบการณ์ 20 ปีในการทำงานกับธุรกิจ B2B ไทย ผมพบว่าการทำ sales forecasting ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัย:

  • ข้อมูลประวัติการขายที่ถูกต้องและครบถ้วน
  • การวิเคราะห์แบบมีหลักการทางสถิติ
  • เครื่องมือที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ
  • การปรับปรุงโมเดลอย่างต่อเนื่อง

เปรียบเสมือนการพยากรณ์อากาศ เราไม่ได้เดาว่าพรุ่งนี้ฝนจะตก แต่ใช้ข้อมูลความชื้น แรงลม อุณหภูมิ มาคำนวณความน่าจะเป็นอย่างมีเหตุผล

ความแตกต่างระหว่าง Sales Forecasting กับ Revenue Prediction

หลายคนมักเข้าใจผิดว่า sales forecasting กับ revenue prediction เป็นสิ่งเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้ว:

  • Sales Forecasting = การทำนายปริมาณการขายในอนาคต
  • Revenue Prediction = การคาดการณ์รายได้รวมจากทุกช่องทาง
  • AI Sales Automation = การใช้ AI ขับเคลื่อนกระบวนการขายอัตโนมัติ

ทำไม AI Sales Prediction สำคัญกับธุรกิจ B2B ไทย

ปัญหาของการรอดูยอดขายจริง

หลายธุรกิจยังคิดว่า การดูรายงานยอดขายตอนสิ้นเดือนก็เพียงพอแล้ว แต่นี่เหมือนกับการขับรถโดยมองแค่กระจกหลัง คุณจะรู้ว่าเมื่อกี้ขับมาทางไหน แต่ไม่รู้ว่าข้างหน้ามีหลุมหรือเปล่า

ตัวอย่างจากลูกค้า Wisible รายหนึ่ง: ธุรกิจขายเคมีภัณฑ์ที่มีลูกค้าเป็นโรงงานทั่วประเทศ เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม เขาดูรายงานแล้วพบว่ายอดขายลดลง 20%

แต่ก็สายเกินแล้ว เพราะสาเหตุมาจากลูกค้ารายใหญ่ 3 ราย เริ่มลดการสั่งซื้อตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ หากมี predictive sales analytics ที่ดี เขาควรจะเห็นสัญญานเตือนตั้งแต่สัปดาห์แรกของกุมภาพันธ์แล้ว

ประโยชน์ของ Sales Forecasting ที่แม่นยำ

จากการศึกษาของ Harvard Business Review พบว่าธุรกิจที่ใช้ sales forecasting อย่างมีระบบมีแนวโน้มเติบโตได้เร็วกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

1. วางแผนการเงินได้แม่นยำ รู้ล่วงหน้าว่าเดือนหน้าจะมีรายได้เท่าไหร่ วางแผนจ่ายเงินเดือน ค่าเช่า ค่าสินค้า ได้อย่างมั่นใจ

2. จัดการสต๊อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเก็บสินค้าเกินความจำเป็น หรือขาดสต๊อกตอนลูกค้าต้องการ

3. ปรับกลยุทธ์การขายทันเวลา เมื่อเห็นว่ายอดขายจะไม่ถึงเป้า สามารถเปิดโปรโมชั่น หรือเพิ่ม effort ในการขายได้ทันเวลา

4. สร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีการวางแผนและควบคุมได้

วิธีทำ Sales Forecasting แบบดั้งเดิม vs Sales Forecasting Software Thailand

วิธีแบบดั้งเดิม: Excel + สัญชาตญาณ

วิธีที่หลายธุรกิจไทยยังใช้อยู่คือ การเอายอดขายปีที่แล้วมาคูณด้วยเปอร์เซ็นต์เติบโต หรือให้เซลส์แต่ละคนประมาณการว่าดีลในมือจะปิดได้เมื่อไหร่

ปัญหาของวิธีนี้คือ:

  • พึ่งพาความจำและสัญชาตญาณ ซึ่งผิดพลาดได้ง่าย
  • ไม่สามารถวิเคราะห์ปัจจัยซับซ้อน เช่น ฤดูกาล เศรษฐกิจ พฤติกรรมลูกค้า
  • ใช้เวลาเยอะ ในการรวบรวมข้อมูลจากหลายคน
  • ไม่อัปเดตแบบ Real-time ข้อมูลล้าสมัยตลอดเวลา

Sales Forecasting Software Thailand ยุคใหม่

ปัจจุบันมี sales forecasting software หลายตัวที่ออกแบบมาเพื่อตลาดไทยโดยเฉพาะ โดยเฉพาะระบบ CRM ที่มีฟีเจอร์ Sales Pipeline ที่สามารถ:

  • เชื่อมต่อกับระบบ ERP ที่ธุรกิจใช้อยู่แล้ว
  • วิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real-time
  • รองรับภาษาไทย และเข้าใจพฤติกรรมตลาดไทย
  • ราคาเหมาะสมกับ SME ไม่ต้องลงทุนหลักแสน

Revenue Automation AI: อนาคตของ Sales Forecasting ที่ทำได้มากกว่า

นี่คือจุดที่เกมเปลี่ยน เมื่อ Andrew Ng กูรู AI ของโลกบอกว่า “เวลาปลดแอกพลังแห่ง AI ให้ทุกธุรกิจใช้ได้แล้ว” เขาหมายถึงการนำ AI มาช่วยงานที่ซับซ้อนอย่าง sales forecasting นี่แหละ

Revenue Automation AI คืออะไร?

Revenue Automation AI คือ ระบบอัจฉริยะที่ไม่ได้แค่คาดการณ์ยอดขาย แต่ยังช่วย “ขับเคลื่อน” ให้เกิดรายได้อย่างอัตโนมัติ โดยการ:

1. Predictive Analytics แบบล้ำลึก ไม่ได้ดูแค่ยอดขายในอดีต แต่วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เศรษฐกิจ ฤดูกาล การแข่งขัน และปัจจัยอื่น ๆ อีกร้อยกว่าตัวแปร

2. Customer Intelligence อัตโนมัติ รู้ว่าลูกค้าแต่ละรายมีโอกาสซื้อซ้ำเมื่อไหร่ สินค้าอะไร ในราคาเท่าไหร่ และวิธีการติดต่อที่มีประสิทธิภาพที่สุด

3. Early Warning System แจ้งเตือนเมื่อลูกค้ารายใหญ่ทำท่าจะลดการสั่งซื้อ หรือมีแนวโน้มจะหันไปใช้คู่แข่ง ตามหลักการที่ McKinsey & Company ได้ศึกษาเรื่อง AI transformation ในภาคการขาย

ตัวอย่างการทำงานจริงของ Revenue Automation AI

ลองนึกภาพธุรกิจขายอุปกรณ์การแพทย์ที่มีลูกค้าเป็นโรงพยาบาลทั่วประเทศ (เหมือนกับลูกค้าหลายรายของ Wisible ที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมการแพทย์):

แบบเดิม: รอให้โรงพยาบาลโทรมาสั่งซื้อเมื่อของใกล้หมด หรือให้เซลส์โทรไปถามทุก ๆ เดือน

แบบ Revenue Automation AI:

  • ระบบวิเคราะห์ว่าโรงพยาบาล A ปกติสั่งซื้อวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ทุก ๆ 45 วัน
  • เมื่อครบ 35 วัน ระบบส่งการแจ้งเตือนไปหาเซลส์ให้ติดต่อลูกค้า
  • พร้อมข้อมูลว่าครั้งที่แล้วซื้ออะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ และควรเสนอสินค้าเพิ่มเติมอะไร
  • ผลลัพธ์: ยอดขายเพิ่มขึ้น 15% เพราะไม่พลาดจังหวะขาย และขายเพิ่มได้มากขึ้น

Human-in-the-Loop: เมื่อ AI ทำงานร่วมกับมนุษย์

แต่ AI ไม่ได้เป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานแทนมนุษย์ 100% เหมือนในหนัง Sci-Fi นะ มันทำงานแบบ “Human-in-the-Loop” หรือ “มนุษย์ร่วมวง”

AI บอก: ลูกค้า B มีโอกาสสั่งซื้อ 85% มนุษย์เพิ่มเติม: แต่เพิ่งได้ข่าวว่าเขาโดนตัดงบประมาณ ลดเหลือ 60% AI เรียนรู้: บันทึกข้อมูลนี้เพื่อปรับโมเดลให้แม่นยำขึ้น

นี่คือเหตุผลที่ Revenue Automation AI ของ Wisible ไม่ได้แค่ให้ตัวเลขเปล่า ๆ แต่ให้เครื่องมือที่ช่วยทีมขายทำงานได้ดีขึ้น โดยมีข้อมูลเป็นเข็มทิศ ตามหลักการ Customer Relationship Management ที่มีประสิทธิภาพ

วิธีทำ Sales Forecasting แม่นยำ: คู่มือเริ่มต้น

ขั้นตอนที่ 1: เก็บข้อมูลให้ถูกต้อง

ก่อนจะทำ sales forecasting ได้ ต้องมีข้อมูลที่ดีก่อน ซึ่งรวมถึง:

  • ประวัติการซื้อของลูกค้าแต่ละราย (วันที่ สินค้า จำนวน ราคา)
  • ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร (อีเมล โทรศัพท์ LINE แชท)
  • ข้อมูลลูกค้า (ประเภทธุรกิจ ขนาด ที่ตั้ง)
  • ข้อมูลการแข่งขัน (ราคาตลาด โปรโมชั่นคู่แข่ง)

ขั้นตอนที่ 2: เลือก Sales Forecasting Software ที่เหมาะสม

สำหรับ SME ไทย ควรเลือก sales forecasting software ที่มีคุณสมบัติ:

  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องเป็น Data Scientist ก็ทำได้
  • เชื่อมต่อได้ กับระบบที่มีอยู่แล้ว (Line, อีเมล, ERP)
  • ราคาเหมาะสม ไม่ต้องลงทุนหลักแสนตั้งแต่เริ่มต้น
  • Support ภาษาไทย มีทีมดูแลในประเทศ

ขั้นตอนที่ 3: ทดสอบและปรับปรุงโมเดล

เริ่มต้นด้วยข้อมูล 3-6 เดือนที่ผ่านมา เพื่อดูว่าระบบทำนายแม่นยำแค่ไหน จากนั้นค่อย ๆ ปรับปรุงโมเดลให้แม่นยำขึ้นเรื่อย ๆ ตามแนวทางของ การปรับปรุงประสิทธิภาพระบบ CRM

อนาคตของ Sales Forecasting ในประเทศไทย

ความท้าทายที่ SME ไทยเจอ

จากประสบการณ์ลองใช้ Vertex AI ของ Google เพื่อสร้าง ML Model เอง ใช้เวลาไปหนึ่งวันเต็มช่วงวันหยุดสงกรานต์ เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 บาท กับข้อมูลแค่ 1,000 บรรทัด

ถ้าต่างคนต่างทำเอง ค่าใช้จ่ายจะแพงมาก ทั้งค่า infrastructure ค่าข้อมูล ค่าแรงในการเตรียมข้อมูล แถมยังใช้เวลาเยอะ สำหรับคนที่ไม่มี technical background

ทางออกแบบ “รวมพลัง” สำหรับ SME

แต่ถ้าเอามากองรวมกันทำทีเดียว ราคาน่าจะน่ารักกว่านี้ได้อีกเยอะ เหมือนกับการแชร์ค่า Uber แทนที่จะขับรถคนละคัน

นี่คือเหตุผลที่ Revenue Automation AI แบบ SaaS (Software as a Service) ถึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับ SME ไทย

เพราะคุณได้ประโยชน์ของ AI ระดับ Enterprise แต่จ่ายเฉพาะส่วนที่ใช้ เหมือนจ่ายค่าไฟตามการใช้จริง ไม่ต้องซื้อเครื่องปั่นไฟมาเป็นของตัวเอง

เคล็ดลับการเลือก Sales Forecasting Software Thailand

เมื่อเลือก sales forecasting software สำหรับธุรกิจไทย ควรพิจารณา:

ความเข้ากันได้กับธุรกิจไทย

  • รองรับภาษาไทยอย่างสมบูรณ์
  • เข้าใจวัฒนธรรมการทำธุรกิจไทย
  • มีทีม Support ในประเทศ

ความสามารถด้าน AI และ Automation

  • มี predictive analytics แบบ real-time AI sales prediction
  • สามารถ integrate กับ Line, Facebook, อีเมล
  • มี early warning system สำหรับลูกค้าเสี่ยง

ROI และ Cost-effectiveness

  • ราคาเหมาะสมกับงบประมาณ SME
  • คำนวณ ROI ได้ชัดเจน
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายซ่อนเร้น

ก้าวสู่อนาคตของ Sales Forecasting

Sales forecasting ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับบริษัทใหญ่อีกต่อไป ด้วยความก้าวหน้าของ AI และ Revenue Automation Technology ทำให้ SME ไทยสามารถเข้าถึงเครื่องมือระดับโลกได้ในราคาที่เข้าถึงได้

แต่สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นด้วยการเก็บข้อมูลให้ถูกต้อง เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม และมีใจเปิดกว้างที่จะเรียนรู้วิธีใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจ

ยังมี missing link ระหว่างเอสเอ็มอีไทย กับพลังแห่งเอไอ ที่รอคนมาเชื่อมโยงสองโลกนี้ให้สมบูรณ์อยู่ และนั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวิธีการทำธุรกิจในประเทศไทย

เพราะในโลกที่ AI ทำนายการซื้อของลูกค้าได้แล้ว คำถามไม่ใช่ว่า “มันแม่นไหม?” แต่เป็น “เราจะใช้ประโยชน์จากมันยังไงให้เต็มที่?”

demo booking

รับข่าวสารและโปรโมชั่นสุดพิเศษ

กรอกอีเมลเพื่อรับข่าวสารและกิจกรรมพิเศษ

Similar Posts