ชีวิตดีขึ้นมากแค่ไหน เมื่อเปลี่ยนมาใช้ CRM

ชีวิตดีขึ้นมากแค่ไหน เมื่อเปลี่ยนมาใช้ CRM
ชีวิตดีขึ้นมากแค่ไหน เมื่อเปลี่ยนมาใช้ CRM

การบริหารงานขาย ถือเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรธุรกิจ เพราะงานขายเป็นแหล่งรายได้ ผู้ดูแลฝ่ายขายจึงต้องมีการออกแบบวิธีการขายสินค้า รวมทั้งมีเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยให้พนักงานขายมีโอกาสขายสินค้าหรือปิดการขายได้ง่ายขึ้น และ CRM คือเทคโนโลยีที่มีบทบาทในด้านของการบริหารทีมขาย หากถามว่า “ชีวิตดีขึ้นมากแค่ไหน เมื่อเปลี่ยนมาใช้ CRM” บทความนี้มีความหมาย ประโยชน์ และความรู้เกี่ยวกับ CRM มาแนะนำ

CRM คืออะไร?

CRM ย่อมาจาก Customer Relationship Management หมายถึง ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยให้ฝ่ายขายสามารถจัดการข้อมูลและกระบวนการต่างๆ ในการขายได้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ความพึงพอใจของลูกค้าหรือผู้มุ่งหวังที่มีโอกาสเป็นลูกค้า เริ่มตั้งแต่การนำเสนอสินค้าและบริการ ไปจนถึงการทำให้เกิดการซื้อซ้ำๆ จากการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

ประโยชน์หลักที่ได้จาก CRM

สิ่งที่ผู้บริหารงานขายหรือทีมขายจะได้จากการนำระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM มาใช้ในองค์กรธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันการทำ CRM จะมีการใช้ Software เข้ามาเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการทำ CRM เพื่อทำให้การทำงานของฝ่ายขายเป็นระบบมากขึ้น โดยซอฟต์แวร์บางตัวสามารถเก็บข้อมูลและพฤติกรรมต่างๆ ของลูกค้าได้อย่างละเอียด ประโยชน์หลักจาก CRM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของทีมขายได้ ดังนี้

1. ช่วยแบ่งเบาและลดภาระของทีมขายในการจัดเก็บและค้นหาข้อมูล

องค์กรธุรกิจที่มีระบบ CRM และซอฟต์แวร์ CRM ที่ดี ทำให้ข้อมูลจำนวนมากของลูกค้าถูกจัดเก็บลงในฐานข้อมูลของโปรแกรม CRM ช่วยให้ฝ่ายขายทุกคนในทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก ไม่ต้องขอข้อมูลจากใคร ทำให้ทีมขายสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว

2. ช่วยป้องกันปัญหาเรื่องข้อมูลสูญหาย

ปัญหาอย่างหนึ่งขององค์กรธุรกิจ หากฝ่ายขายหรือทีมงานจัดเก็บข้อมูลลูกค้าไม่ดี หรือไม่มีมาตรฐาน อาจทำให้ข้อมูลสูญหาย การมีระบบ CRM ช่วยป้องกันปัญหาเรื่องข้อมูลสูญหายได้ ในบางกรณีที่มีพนักงานที่โยกย้าย หรือเปลี่ยนผ่านตำแหน่งไป และไม่ได้สำรองข้อมูลเอาไว้ให้ ข้อมูลลูกค้าที่อยู่กับพนักงานเหล่านั้นก็อาจหายไปด้วยเช่นกัน แต่ระบบ CRM จะช่วยรักษาข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ได้ และยังช่วยจัดการข้อมูลที่เป็นระบบมากยิ่งขึ้น

ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน
ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน

3. ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน

ในขั้นตอนการขาย อาจทำได้ไม่ยากหากมีทีมขายที่เก่งและมีคุณภาพ แต่ขั้นตอนของการปิดการขาย อาจจะต้องใช้เวลา ไม่ว่าจะเป็นการให้ลูกค้ากรอกฟอร์ม เซ็นเอกสารต่างๆหากมีระบบ CRM ที่ดีจะสามารถช่วยลดภาระของทีมขายได้ ทำให้ทีมขายไม่จำเป็นต้องคอยจดบันทึก เวลา วันที่ ในการติดต่อ หรือ Follow Up Task จาก Leads ของลูกค้าอีกเลย เนื่องจากระบบ CRM สามารถจัดการเวลาและจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ช่วยให้เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

การทำ CRM จะช่วยทีมขายให้สามารถเก็บข้อมูลและนำมาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น การทำ CRM ยังช่วยย่นระยะเวลาในการเก็บและดูรายละเอียดต่างๆ ทั้งประวัติการติดต่อ หรือข้อมูลที่ Leads เคยส่งให้ในระบบ CRM ได้ทั้งหมด

 5. จัดการดีลและรายงานการขาย

สิ่งที่ระบบ CRM เข้ามาช่วยได้ คือ รายงานการขายที่สามารถเรียกดูได้ทุกเวลา และข้อมูลอัปเดตเป็นปัจจุบันเสมอ ทำให้การบริหารงานขายทำได้สะดวกและง่ายขึ้น เช่น การติดตามลูกค้า และสามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจว่าเป็นอย่างไร เพื่อปรับปรุงกระบวนการขาย

6. เพิ่มประสิทธิภาพการติดต่อในทีม

ระบบ CRM ช่วยให้การทำงานของทีมขายเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะระบบ CRM มีการใส่รายชื่อผู้รับผิดชอบลูกค้าในแต่ละรายได้ ทำให้มีข้อมูล และรู้ว่าใครควรทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ทำให้การประสานงานขอข้อมูล ค้นหาข้อมูลต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว 

ขั้นตอนการทำ CRM ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

1. กำหนดวิสัยทัศน์ และเป้าหมายของการทำ CRM ให้ชัดเจน เช่น สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ผลผลิตและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น อัตราการเป็นลูกค้าประจำเพิ่มสูงขึ้น หรืออัตราการเลิกใช้งานของลูกค้าลดลง ในขั้นตอนนี้ยังทำให้ทีมงานในองค์กร มีทิศทางการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันนั่นเอง

การระบุกลุ่มเป้าหมาย
การระบุกลุ่มเป้าหมาย

2. ระบุกลุ่มเป้าหมาย เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ทันท่วงที เช่น การแบ่งข้อมูลตามประชากรศาสตร์, จิตวิทยา, ภูมิศาสตร์, และพฤติกรรม รวมไปถึงเพศ อายุ ศาสนา ความสนใจ และการรับรู้

3. กำหนดกลยุทธ์การทำ CRM โดยกลยุทธ์การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า สามารถทำได้ครอบคลุม ตั้งแต่การรับรู้ การตัดสินใจซื้อ กระบวนการการขาย และการบริการลูกค้า 

4. รู้จักสินค้าและบริการของตนเอง การรู้จักสินค้าและบริการของตนเองจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น ไอเดียการหา Unique Selling Point ให้ได้เปรียบคู่แข่งในตลาด การให้ข้อมูล การใช้ข้อความในการสื่อสาร

5. กำหนดวิธีการเก็บข้อมูล และการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ การทำ CRM ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องอาศัยข้อมูลจำนวนมาก ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่างๆมากมาย ที่เป็น CRM Software สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบอัตโนมัติ

สรุป

การทำ CRM ในองค์กรธุรกิจ หรือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เป็นหนึ่งวิธีในการที่จะช่วยให้ทีมขายสามารถทำงานได้อย่างมีระบบ และประหยัดเวลามากขึ้น รวมทั้งยังเกิดประโยชน์ต่อองค์กร ต่อทีมงานครอบคลุมในหลายๆด้าน อาทิ ช่วยเพิ่มรายได้จากการขาย เพราะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าจะช่วยสร้างความภักดี ทำให้เกิดการซื้อซ้ำได้ง่าย ช่วยรักษาลูกค้ารายใหม่ให้อยู่กับธุรกิจได้ยาวนานยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยให้การทำแคมเปญต่างๆง่ายมากขึ้น เพราะมีข้อมูล และมีฐานลูกค้ารองรับอยู่แล้ว

Similar Posts