เทคโนโลยี และ เครื่องมือการขาย (Sales Tools) ช่วยเหลือการขายอย่างไร และ มีอะไรบ้าง ?

Riki Kimura wisible author

Riki Kimura

Digital Marketing Executive at Wisible

A man in a glasses picking a tools with the text "เทคโนโลยีและเครื่องมือการขาย (Sales Tools)"

การพัฒนาของเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ทำให้เกิดการคิดค้นและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นมามากมาย ไม่เฉพาะต่อการใช้ชีวิตของคนเราเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในองค์กรธุรกิจ และใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อช่วยขับเคลื่อนสินค้าและบริการให้ไปถึงมือผู้บริโภคได้สะดวก รวดเร็ว โดยผลลัพธ์ที่คาดหวังคือการสร้างผลกำไรให้กับองค์กร ส่วนเทคโนโลยีการขายและเครื่องมือที่ช่วยให้กับการขายนั้น มีอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบมาให้ครับ

แนะนำ เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ช่วยให้กับการขาย

เมื่อการใช้ชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เน้นความสะดวก สบาย และรวดเร็วเป็นหลัก เทคโนโลยีจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุก ๆ ด้าน รวมทั้งการนำมาใช้ในองค์กรธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการขาย

เทคโนโลยี  คืออะไร

เทคโนโลยี หมายถึง การนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์สิ่งของ เช่นอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ หรือกระบวนการต่าง ๆ เพื่อช่วยในการทำงานให้มีความสะดวก รวดเร็ว หรือช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ กล่าวโดยสรุป เทคโนโลยี การใช้ความรู้ เครื่องมือ ความคิด หลักการ เทคนิค ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการ ตลอดจนผลงานทางวิทยาศาสตร์ทั้งสิ่งประดิษฐ์และวิธีการ มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานให้มีมากยิ่งขึ้น

A Man with several Sales tools
เทคโนโลยี เกี่ยวข้องกับการขาย อย่างไร?

เทคโนโลยี เกี่ยวข้องกับการขาย อย่างไร

เทคโนโลยีกับการขายมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน เริ่มจากความก้าวหน้าและการพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้เกิดสินค้าใหม่ ๆ ขึ้นมาในตลาด เมื่อคอมพิวเตอร์ และสื่อโซเชียลกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคม การซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตจึงเป็นทางเลือกใหม่ของธุรกิจ ในการเสนอขายสินค้าและบริการ ที่สะดวก รวดเร็ว เทคโนโลยีที่เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับงานขาย ได้แก่

  1. World Wide Web หรือ WWW หรือ W3 คือ บริการข้อมูลข่าวสารในแบบสื่อผสมหรือมัลติมีเดีย (Multimedia)ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่มีทั้งตัวอักษร ข้อความ ภาพและเสียง ประกอบกัน สามารถเรียกร้องความสนใจจากผู้ใช้ได้ดี ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ยังทำให้มีร้านค้าออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ขายสินค้า  หรือเว็บเพจต่าง ๆ
  2. E-mail  คือ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronicmail) ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการส่งข้อมูลข่าวสารไปยังลูกค้า หรือบุคคลที่ติดต่อด้วย
  3. Mailing list คือ กลุ่มของบุคคลที่มีความสนใจเรื่องเดียวกัน ซึ่งองค์กรธุรกิจ ถือเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
  4. Web Board คือ กระดานข่าวที่ให้ผู้คนเข้ามาเสนอแนวคิดหรือพูดคุยกันในด้านการตลาด สามารถใช้เว็บบอร์ดเป็นที่สร้างกระแสได้ ซึ่งจะทำให้ผู้คนรู้จักและทราบในเรื่องที่ต้องการสื่อสาร ซึ่งถือเป็นสื่อ(Medium)ชนิดหนึ่งในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ
  5. Mobile Phone หรือโทรศัพท์มือถือ คือเทคโนโลยีที่เพิ่มช่องทางธุรกิจให้ลูกค้าและผู้ให้บริการสามารถติดต่อถึงกันได้ทั่วโลกได้ด้วยบริการ”Mobile Commerce”โดยการบริหารจัดการเพียงครั้งเดียวก็จะสามารถได้เว็บไซต์ร้านค้าที่สามารถรับชมผ่านทุกช่องทาง และเข้าถึงลูกค้าได้โดยที่ลูกค้าสามารถเข้าเว็บไซต์และซื้อสินค้าของกิจการได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24ชั่วโมง

ความสำคัญของเทคโนโลยีต่อการเพิ่มยอดขาย

ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมาย และสิ่งสำคัญยังอำนวยความสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิตของผู้คน ช่วยให้การติดต่อสื่อสารถึงกันทำได้สะดวก ด้านความสำคัญของเทคโนโลยีต่อการเพิ่มยอดขาย นอกจากทำให้ระบบการผลิตมีคุณภาพ สามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากส่งผลให้มีราคาถูกลงแล้ว  การนำเทคโนโลยีมาใช้กับงานเพิ่มยอดขาย มีความสำคัญ 3 ประการ คือ

  1. เพิ่มประสิทธิภาพ เพราะเทคโนโลยีจะช่วยให้การทำงานบรรลุผลตามเป้าหมายได้เที่ยงตรงและรวดเร็ว ทั้งในด้านการผลิตและด้านการตลาด
  2. ได้ประสิทธิผล การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการขาย ช่วยให้งานขายเกิดผลลัพธ์เต็มที่ และได้ประสิทธิผลสูงสุด
  3. มีความคุ้มค่า และประหยัด เนื่องจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ทุกระบบ หรือทุกกระบวนการด้านการขาย ไม่เพียงเพิ่มยอดขายให้กับองค์กรเท่านั้น แต่ยังประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน ลงทุนน้อยแต่ได้ผลมาก

ประโยชน์ของเทคโนโลยี ต่อการส่งเสริมการขาย

เทคโนโลยี มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการขาย เพราะเป็นการเรียนรู้ การผลิตหลักการ เทคนิค และกระบวนการตลอดจนการใช้ประโยชน์จากความคิดใหม่มาประยุกต์ใช้ในระบบงานเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานให้ดียิ่ง นอกจากนั้นเทคโนโลยียังมีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

1.ประโยชน์ของเทคโนโลยี ต่อการใช้งานในองค์กรธุรกิจ

  1. เทคโนโลยี ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการผลิตหรือภายในองค์กรธุรกิจทุกประเภทและทุกขนาด
  2. เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือหรือกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสู้กับคู่แข่งทางการตลาดได้
  3. การเข้าถึงข้อมูลของสินค้าและบริการทำได้รวดเร็ว เช่น รับรู้ข้อมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์ หรือเว็บเพจ สื่อโฆษณาต่าง ๆ
  4. เทคโนโลยี ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์และแบรนด์
  5. เป็นประโยชน์ต่อการจัดเก็บข้อมูล ทำให้การจัดเก็บข้อมูล เช่น ข้อมูลสินค้า ข้อมูลลูกค้า มีระเบียบและมีระบบมากขึ้น
  6. เทคโนโลยี ช่วยสร้างขีดความสามารถใหม่ให้กับธุรกิจ และช่วยให้องค์กรธุรกิจเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
  7. เพิ่มประสิทธิภาพ และผลผลิตในการทำงาน ช่วยให้การทำงานในองค์กรธุรกิจมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  8. เทคโนโลยี ช่วยยกระดับการให้บริการ ที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์
  9. เทคโนโลยี ช่วยลดความผิดพลาดในการทำงาน ทำให้ระบบสามารถทำงานในหลากหลายหน้าที่ได้มากขึ้นด้วย
  10. เป็นประโยชน์ด้านพัฒนาการบริหารทรัพยากรบุคคลได้หลากหลายมิติ ตั้งแต่การสรรหาพนักงาน จนถึงการสื่อสารกับพนักงานภายในองค์กร

2.ประโยชน์ของเทคโนโลยี ต่อการบริหารงานขาย

  1. ช่วยให้องค์กรธุรกิจเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ง่ายจากเทคโนโลยีสารสนเทศ และการติดต่อสื่อสารจากสังคมออนไลน์ ทำให้ฝ่ายบริหารงานขาย สามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด
  2. เทคโนโลยีเช่วยให้สินค้าและบริการเกิดการพัฒนา และมีสินค้าใหม่ ๆ ให้เป็นทางเลือกของลูกค้ามากขึ้น
  3. เทคโนโลยี ช่วยให้การนำเสนอสินค้าทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย เช่น การจำหน่ายสินค้าออนไลน์
  4. เป็นประโยชน์ต่อการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ จากระบบการจัดการเกี่ยวกับข้อมูลรายละเอียดของลูกค้าในองค์กร และระบบแสดงรายละเอียดของข้อสัญญาระหว่างองค์กรกับลูกค้า
  5. เทคโนโลยี ที่ทำให้การขายของออนไลน์ ซึ่งเป็นการบริหารงานขายอีกหนึ่งช่องทางเป็นเรื่องง่ายขึ้น และมีโอกาสเพิ่มยอดขายให้กับองค์กรได้อีกด้วย
  6. สามารถช่วยพนักงานขายในการทำงาน เช่น ช่วยจัดการงานเอกสาร เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยป้องกันการสูญหายของข้อมูลต่าง ๆ ของกลุ่มลูกค้าได้ดี
  7. วางแผนการตลาดได้อย่างรอบคอบ จากการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า ทำให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมและนำเสนอสินค้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
  8. การบริหารงานขาย เมื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกมากเท่าไหร่ ก็จะเป็นการลดต้นทุนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนในการจ้างงาน หรือต้นทุนในการผลิต
  9. เทคโนโลยีช่วยจัดการกลยุทธ์ทางการขายได้อย่างเหมาะสม  เช่น กลยุทธ์กระตุ้นการขายกลยุทธ์เกี่ยวกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์
  10. การนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ ในด้านของการจัดหมวดหมู่สินค้าการจัดการต้นทุน ราคา กำไร และการเก็บสถิติวัน เวลาที่ขายสินค้า
  11. ช่วยจัดการในด้านฐานข้อมูล การนำเอาเทคโนโลยี เช่น ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานขาย เป็นการแบ่งเบาภาระของการจดจำรายชื่อลูกค้า และนำเอารายชื่อการติดต่อกับลูกค้าแต่ละแผนก ไม่ว่าจะเป็นแผนกขาย แผนกบัญชี แผนกส่งของทุกแผนกเข้ามารวมไว้ด้วยกันทั้งหมดในระบบคอมพิวเตอร์

3.ประโยชน์ของเทคโนโลยี ต่อผู้บริโภค

  • ช่วยให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูลสินค้า ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
  • ช่วยประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการไปเดินเลือกซื้อสินค้าบางประเภท เพราะสามารถสั่งซื้อออนไลน์ สั่งสินค้าเดลิเวอรี่ โดยใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร
  • เทคโนโลยี ช่วยอำนวยความสะดวก ประหยัดเวลา และรวดเร็ว เช่น การใช้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ในการเลือกสินค้า ค้นหาข้อมูลสินค้า การสั่งจองสินค้า รวมไปถึงการจ่ายเงินค่าสินค้า
  • ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าและบริการอย่างสะดวกและรวดเร็ว จากการใช้เทคโนโลยีในการผลิตสินค้าและบริการขนส่ง
  • ระบบการสั่งซื้อและการขายอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าของลูกค้า และเป็นการอำนวยความสะดวกทำให้สามารถสั่งซื้อ เลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายตามที่ต้องการ
  • ลูกค้า สามารถใช้รูปแบบการติดต่อในลักษณะสังคมออนไลน์โดยผ่านทางโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์พกพากันมากขึ้น ถือเป็นช่องทางการติดต่อที่ช่วยให้ลูกค้าติอต่อปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ง่ายและสะดวกขึ้น
  • เทคโนโลยี ทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคสามารถเลือกสินค้าและบริการได้ทั่วโลกทำให้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการขาย มีอะไรบ้าง

เทคโนโลยี คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการตลาดทุกระบบ หรือทุกกระบวนการด้านการขาย เช่น การทำธุรกิจผ่านระบบเครือข่ายทำให้ลูกค้ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภค สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยตรง และผู้ผลิตส่งสินค้าถึงลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ปัจจุบันเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการขาย และองค์กรธุรกิจหรือผู้ประกอบการนิยมนำมาใช้ มีดังนี้

Artificial Intelligence

1.เทคโนโลยี AI

เทคโนโลยี AI เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องจักร หรือระบบสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติและถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลาย ในโลกของธุรกิจเทคโนโลยี AI มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารธุรกิจรวมทั้งการเพิ่มยอดขายให้กับองค์ได้ ได้ 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่

  • เทคโนโลยี AI กับกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ
  • เทคโนโลยี AI เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์ข้อมูล
  • เทคโนโลยี AI กับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และพนักงาน
Multimodality

2.เทคโนโลยี  Multimodality

เทคโนโลยี  Multimodality คือ การขนส่งที่ใช้วิธีการขนส่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งการขนส่งทางรถ ทางเรือ หรือ ทางอากาศ ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัทขนส่งเดียวกัน การนำเทคโนโลยีประเภทนี้มาใช้ในองค์กรธุรกิจ ยังเปรียบเสมือนกลยุทธ์ทางการขนส่ง ที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการตลาดได้เป็นอย่างดี  เพราะองค์กรธุรกิจ สามารถใช้บริการขนส่งแบบ Multimodal ได้ในหลากหลายวิธี เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และ ลดต้นทุนด้านการขนส่ง

Google Analytics

3.เทคโนโลยี  Google Analytics 

Google Analytics คือ เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ และเก็บข้อมูลสถิติของเว็บไซต์ ด้วยการนำข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์มาวิเคราะห์ เพื่อวางกลยุทธ์ในการทำการตลาด พร้อมวัดผลได้อย่างแม่นยำ เช่น

  • เพศ อายุ เมืองหรือประเทศที่อยู่อาศัย ความสนใจและความชอบส่วนตัว สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้เครื่องมือสามารถค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ในอนาคต และเจอฐานการตลาดของแบรนด์ ไม่ต้องเสียเวลา และงบประมาณในการทำโฆษณาแบบไม่มีจุดหมาย
  • สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ให้ดีขึ้น เพื่อให้ลูกค้าอยู่บนหน้าเว็บได้นานขึ้นและเกิดการซื้อขาย
  • การวิเคราะห์ข้อมูล Acquisition ของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ว่ามาจากช่องทางไหน เพื่อสามารถนำข้อมูลเชิงลึกไปต่อยอดการทำโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มอื่น ได้
Vending Machine

4.เทคโนโลยี  การขายทางตู้อัตโนมัติ  

การขายทางตู้อัตโนมัติ เป็นเทคโนโลยีทางการตลาดอย่างหนึ่ง มีลักษณะเป็นตู้จำหน่ายสินค้าหรือบริการแบบหยอดเหรียญอัตโนมัติ สามารถตั้งตู้ไว้ที่ใดที่หนึ่งสำหรับขายสินค้านั้น โดยผู้ซื้อจะหยอดเหรียญเข้าไปในช่อง จากนั้นกดปุ่มเลือกสินค้าเครื่องก็นำสินค้าที่เลือกให้กับลูกค้าที่ช่องรับสินค้าตามต้องการ เป็นเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการไม่ต้องมีพนักงานขายคอยเฝ้า สะดวก และง่าย เนื่องจากที่ตู้จะบอกวิธีการใช้ ไว้ด้วย

E-Commerce

5.เทคโนโลยี E-Commerce

เทคโนโลยี E-Commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การขายสินค้าหรือบริการบนอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการทำธุรกรรมทุกรูปแบบครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้าและบริการ การชำระเงิน การโฆษณา โดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ ข้อดีของ Ecommerce ได้แก่

  • ช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
  • ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงตลาดได้ทั่วโลก
  • สามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ง่าย สะดวก รวดเร็ว
  • โดยทั่วไป เทคโนโลยี E-Commerce มักมีค่าดำเนินการน้อยกว่า
  • เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าหรือแบรนด์ได้โดยตรง
Digital Marketing

6.เทคโนโลยีดิจิทัล ทางการตลาด

เทคโนโลยีดิจิทัลทางการตลาด หมายถึง การประยุกต์นำความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคม มาใช้ทางการตลาด และยังใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งของการนำเสนอสารสนเทศ เพื่อใช้สำหรับงานด้านการตลาดในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ วัตถุประสงค์ของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด ได้แก่ การวางแผนกลยุทธ์ การประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขาย การเข้าถึงลูกค้า การทำ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทของเทคโนโลยีดิจิทัลทางการตลาด เช่น

  • โปรแกรมสำเร็จรูปด้านการตลาด เป็นซอฟต์แวร์สำหรับจัดการงานด้านการตลาด เพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้า และทำให้ลูกค้าสะดวกในการใช้งาน
  • นวัตกรรมร้านค้าปลีก หมายถึง นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อน ยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้า เริ่มจาก เพิ่มความสะดวกสบายในการชำระเงิน นำเทคโนโลยีจากสมาร์ทโฟน มาใช้ทางการค้า บริการจัดส่งที่รวดเร็วรวมทั้งลูกค้าสามารถติดตามการเดินทางของสินค้าได้ตลอดเส้นทางการจัดส่ง
  • หน่วยขายอัตโนมัติ คือเทคโนโลยีที่เป็นวิธีการซื้อขาย โดยผู้ซื้อและผู้ขายส่งการเสนอซื้อและเสนอขายด้วยคอมพิวเตอร์ผ่านเข้ามายังระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยที่ระบบคอมพิวเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำการเรียงลำดับและจับคู่คำสั่งซื้อขายให้โดยอัตโนมัติ
  • การใช้งานอินเทอร์เน็ต คือการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่ายจำนวนมาก และครอบคลุมไปทั่วโลก ทำให้การส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งทำได้ง่าย โดยไม่จำกัดเรื่องระยะทางและเวลา และยังส่งข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การส่งเป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในสื่อโฆษณาทางการตลาด

เทคโนโลยี และการวางกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มยอดขาย

แนวทางการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และยังเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การนำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือหรือใช้วางกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งกลยุทธ์การตลาด คือ ขั้นตอนกระบวนการคิดวิเคราะห์ออกมาเป็นแบบแผน ว่าทำอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดหรือเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ ด้วยรูปแบบการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

1.อีเมล์ เบอร์โทรและข้อมูลสำคัญของลูกค้า ตัวเชื่อมโยงระหว่างองค์กรธุรกิจและลูกค้า

การติดต่อสื่อสารด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ คือช่องทางติดต่อประชาสัมพันธ์และแนะนำสินค้าให้กับลูกค้าที่สามารถทำได้รวดเร็ว และทำได้หลากหลายช่องทาง แต่การวางกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายด้วยวิธีนี้ จำเป็นจะต้องมีข้อมูลสำคัญของลูกค้า เช่น อีเมล์ เบอร์โทร หรือช่องทางการติดต่ออื่น ๆ

2.สังคมออนไลน์ และการใช้เครื่องมือออนไลน์เข้ามาช่วยติดต่อกับลูกค้า

สื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำมาใช้เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ บล็อก ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค แฟนเพจ line@ การนำช่องทางเหล่านี้มากำหนดกลยุทธ์ด้านการตลาด ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้าและแบรนด์ และทำให้องค์กรธุรกิจหาลูกค้าใหม่ ๆ หรือสร้างฐานลูกค้าเดิมให้เชื่อมั่นในสินค้าและแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งนักการตลาดจะต้องวิเคราะห์ให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะในการสื่อสารผ่านช่องทางดังกล่าว แล้ววางแผนกำหนดกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับความสนใจความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมาย

3.กลยุทธ์การค้าผ่านโซเชียล Social Commerce

การค้าผ่านโซเชียล หรือ Social Commerce เป็นช่องทางการขายส่วนหนึ่งของ E-commerce ซึ่งเป็นการใช้ Social Media ในการส่งเสริมการซื้อและขายสินค้าหรือบริการออนไลน์ โดยการใช้กลยุทธ์นำเสนอเนื้อหาที่แตกต่างกัน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ เช่น การรีวิวความคิดเห็นจากลูกค้าเก่า ทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจและเป็นที่ยอมรับในช่องทาง Social Media ซึ่งนำไปสู่การสร้างยอดขายขายในที่สุด

4.กลยุทธ์การตลาดแอพมือถือ

แอพพลิเคชั่น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าโปรแกรมถูกเขียนขึ้นมาด้วยภาษาเฉพาะด้าน เพื่อใช้สร้างเครื่องมืออย่าง เครื่องคิดเลข จัดการข้อมูลเอกสาร เครื่องฟังเพลง หรือเพื่อความบันเทิงอย่างแอพพลิเคชั่นเกมมือถือ ดังนั้น กลยุทธ์การตลาดแอพมือถือ จึงขึ้นอยู่กับว่าองค์กรธุรกิจต้องการใช้อะไร เพื่อนำไปใช้ให้ก่อประโยชน์ ธุรกิจที่มีการซื้อขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต มักจะสร้างแอพพลิเคชั่นของธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าหรือคนที่สนใจเข้าถึงได้ง่ายกว่าการเปิดเข้าไปในเว็บไซต์

ตัวอย่างแอพพลิเคชั่น 5 อันดับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Google Play, Apple App Store, Windows Store, Amazon App store และ BlackBerry World

5.กลยุทธ์ Green Marketing

Green Marketing เป็นการทำการตลาดที่มุ่งเน้นถึงความยั่งยืนและส่งเสริมการผลิตสินค้าที่คำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก หรือเทรนด์การตลาดสีเขียวและไม่ใช่เป็นเพียงกลยุทธ์ที่จัดทำขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่จะเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ผ่านการประชาสัมพันธ์โดยสื่อโซเชียลและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อมกับการรักษ์โลก ด้วย กลยุทธ์ 4P สำหรับแนวทางแบบธุรกิจสายกรีน มีดังนี้

  • การใช้กลยุทธ์ P-Product ในแนวทางของ Green Marketing  เช่น เลือกผลิตสินค้าจากวัสดุย่อยสลายได้ เลือกกระบวนการผลิตที่ไม่ปล่อยสารพิษทำร้ายโลก หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ทนทานและยั่งยืนที่สุดเพื่อลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง
  • กลยุทธ์ P – Price, Green Price ราคาสีเขียว การตั้งราคาสินค้าและบริการตามแนวคิดGreen Marketing เป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนทั้งภาพลักษณ์และผลกำไรอย่างยั่งยืน โดยการกำหนดราคา องค์กรธุรกิจต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในมุมมองของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าสินค้ามีคุณภาพ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมีประโยชน์กับโลกในระยะยาว
  • กลยุทธ์ P – Place, Green Place สถานที่สีเขียว แนวทางการทำ Green Marketing อาจหมายถึงสถานที่การจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมไปถึงกระบวนการขนส่งต่าง ๆ เพื่อให้สินค้าและบริการไปถึงมือผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เช่น การจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าในปริมาณมาก ๆ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรการขนส่งที่สิ้นเปลือง
  • กลยุทธ์ P – Promotion โปรโมชันสีเขียว แนวทางทำการตลาดของ Green Marketingได้แก่การประชาสัมพันธ์นั้นย้ำว่าธุรกิจทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมได้บ้าง (What) หรือสินค้าที่ผลิตออกมาเชื่อมโยงกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างไร (How) และสินค้าช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าใช้ชีวิตแบบไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้นไหม (For Whom)

6.กลยุทธ์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)

Wisible Interface
Wisible: Revenue Intelligence (CRM)

กลยุทธ์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) หรือ Customer Relationship Management หมายถึงการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ามีความพอใจสูงสุดจากการใช้สินค้าหรือบริการ โดยไม่เปลี่ยนใจไปใช้สินค้าแบรนด์อื่นที่เป็นคู่แข่งด้านการตลาด กลยุทธ์ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ มีขั้นตอนที่สำคัญได้แก่ การนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีฐานข้อมูลของลูกค้าแล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งจัดกิจกรรมทางการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการ หรือสามารถแก้ปัญหาของผู้บริโภคได้ตรงกับปัญหาของลูกค้ามากที่สุด แนวทางกลยุทธ์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ มีดังนี้

  • ประเมินผลลูกค้า เพื่อให้ทราบว่าองค์กรสามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้อย่างไร หรือได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร โดยการนำเทคโนโลยีหรือโปรแกรมต่าง ๆ เข้ามาช่วย
  • นำระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ เป็นการดำเนินธุรกิจโดยการใช้เทคโนโลยีเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์  เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ ขาย การชำระเงิน และอื่น ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
  • การใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ช่วยให้ลูกค้าและผู้ประกอบการ สามารถติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้
  • ระบบศูนย์บริการลูกค้า หรือ Call Center โดยการใช้ระบบ PC telephony รวมถึง Internet telephony ซึ่ง เป็นการรวมระบบโทรศัพท์เข้ากับระบบงานต่าง ๆ เช่น ฐานข้อมูลของลูกค้า การขาย การเงิน และผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว

สรุป

ปัจจุบันการเสนอขายสินค้า ไม่ได้มีเพียงพนักงานขายทำหน้าที่นำเสนอสินค้าและบริหาร รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ในด้านข้อมูลสินค้า หรือการจัดกิจกรรมทางการตลาดเท่านั้น แต่องค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ มีการนำเทคโนโลยีหลากหลายประเภทเข้ามาใช้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต การบริหารงานบุคคล ด้านการตลาด หรืออื่น ๆ โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายที่ลูกค้าจะได้รับเป็นสำคัญ อีกทั้งการพัฒนาของเทคโนโลยี ทำให้มีความเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ด้าน และยังเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นการนำเทคโนโลยีการขาย มาใช้ในธุรกิจถือเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการช่วยให้องค์กรธุรกิจมีการพัฒนาและคิดค้นสินค้าใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาด เป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ และยังช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถปรับตัวตามทันทุกความเปลี่ยนแปลง

สัมฟัสความแตกต่างด้วยตัวคุณเองได้แล้วที่นี่ book demo

Similar Posts