เปลี่ยนเจ๊งเป็นกำไร! 4 วิธี เพิ่มยอดขาย ด้วยระบบ CRM ในธุรกิจเคมีภัณฑ์

Riki Kimura wisible author

Riki Kimura

Digital Marketing Executive at Wisible

เปลี่ยนเจ๊งเป็นกำไร! 4 วิธี เพิ่มยอดขาย ด้วยระบบ CRM ในธุรกิจเคมีภัณฑ์
เปลี่ยนเจ๊งเป็นกำไร! 4 วิธี เพิ่มยอดขาย ด้วยระบบ CRM ในธุรกิจเคมีภัณฑ์

เป็นที่รู้กันว่าในธุรกิจเคมีภัณฑ์ เป็นธุรกิจที่ได้กำไรไม่มากนัก แถม Margin Of Error ยังต่ำอีกต่างหาก พลาดนิดเดียว อาจจะกลายเป็นขาดทุนไปเลย หลาย ๆ บริษัทคงจะคิดไม่ตกเลยทีเดียว ว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะเพิ่มยอดขาย ให้พุ่งทะยานเป็นจรวด ลองมาเพิ่มยอดขายด้วย CRM กันสิคะ กับ 4 วิธี เพิ่มยอดขายด้วยระบบ CRM ในธุรกิจเคมีภัณฑ์

CRM คืออะไร ? แล้วจะช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร ?

CRM หรือ Customer Relationship Management เป็นระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า ที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการดำเนินธุรกิจของคุณกับกลุ่มลูกค้า เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า การหาฐานลูกค้าใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่ยากในทุกธุรกิจอยู่แล้ว แถมในธุรกิจเคมีภัณฑ์เอง แทบจะ 100% ก็เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ทั้งหมด แล้วเราจะเอาเวลาที่ไหนไปติดต่อลูกค้ารายเล็ก ให้บริษัทมีสภาพคล่องที่ดีมากยิ่งขึ้น จริงมั้ย? 

ดังนั้น CRM จะเข้ามามีบทบาทตรงนี้พอสมควรเลยค่ะ เพราะสามารถที่จะรักษากลุ่มลูกค้าเก่าไว้ได้ และยังสามารถมองหา Leads ของบริษัทได้อีกด้วย ด้วยฟังก์ชันการติดต่อลูกค้าผ่านช่องทาง Social ต่าง ๆ ทั้ง อีเมลหรือ LINE OA เองก็ตาม

ถ้าพูดไปแค่นี้คุณอาจจะยังไม่เห็นภาพ เดี๋ยวจะยกตัวอย่างให้เห็นว่า ระบบ CRM จะช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร ใน 3 วิธี เพิ่มยอดขาย ไปดูกันต่อค่ะ

ไม่พลาดทุกการเก็บลีดจากทุกช่องทางสื่อสารด้วย CRM
ไม่พลาดทุกการเก็บลีดจากทุกช่องทางสื่อสารด้วย CRM

1. ลดปัญหาการตกหล่นของลูกค้า 

ด้วยความที่ธุรกิจเคมีภัณฑ์มักจะโฟกัสกับลูกค้ารายใหญ่ แน่นอนว่ายังไงเราก็ไม่อยากเสียลูกค้ากลุ่มนี้ไปอยู่แล้วใช่มั้ยคะ เพราะยังไงกำไรส่วนใหญ่ก็อยู่ที่พวกเขาอยู่แล้ว แต่การที่เราโฟกัสไปที่ลูกค้ารายใหญ่หรือลูกค้าเก่ามาก ๆ อาจจะทำให้เกิดปัญหาการหลงลืม ลูกค้ารายใหม่ ๆ ลูกค้ารายย่อยได้ หรือกระทั่ง Leads ซึ่งก็จะส่งผลให้ลูกค้าของเราน้อยลง และเงินก็อาจจะไม่พอหมุนเวียน ในช่วงที่รอการจ่ายเงินจากลูกค้ารายใหญ่อยู่ 

ซึ่งระบบ CRM จะเข้ามาช่วยจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าอัตโนมัติ (Segmentation) นอกจากจัดลำดับแล้ว ยังช่วยเซลส์ดู แลและติดตามลูกค้า ผ่านระบบการแจ้งเตือนกิจกรรม ที่จะคอยบอกว่าเราควรทำอะไรต่อไป หรือหากเราไม่ได้ติดต่อลูกค้าเป็นระยะเวลาหนึ่ง ตัว CRM ก็จะมีการแจ้งเตือนเช่นเดียวกัน ลดปัญหาตกหล่นรายชื่อของลูกค้าไปได้อย่างดีเลยนะคะ

2. ช่วยคาดเดาจำนวนสินค้าที่ลูกค้าจะสั่งได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น 

คุณอาจจะเคยเจอปัญหานี้กับการเก็งสินค้าจำนวนสินค้าผิด ทำให้การสต็อกของพลาด ซึ่งอาจจะทำให้เราขาดทุนไปได้ง่าย ๆ เนื่องจากราคาสินค้า มีการเปลี่ยนแปลงในทุกเดือน แถมถ้าซื้อน้อยไป สินค้าก็อาจจะไม่พอ เสียโอกาสในการขายกันไปอีก แล้วควรทำอย่างไรดี ?

การคาดเดายอดสั่งซื้อสินค้า ก็เป็นวิธีที่ตอบโจทย์ ซึ่งระบบ CRM จะสามารถเรียกดูฐานข้อมูลของยอดเก่า ๆ ได้ ทั้งข้อมูลสินค้าที่เคยสั่งว่าเป็นสินค้าตัวไหน รวมไปถึงยอดสั่งซื้อทั้งหมด ทำให้เราสามารถคาดเดาจำนวนสินค้าที่จะสั่งซื้อในรอบต่อ ๆ ไปได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น 

เห็นภาพรวมงานขายในหน้าจอเดียว ทันทุกความเคลื่อนไหวว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในดีล
เห็นภาพรวมงานขายในหน้าจอเดียว ทันทุกความเคลื่อนไหวว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในดีล

3. ช่วยวางการติดตามทุก Deal อย่างละเอียด

ด้วยความที่ธุรกิจเคมีภัณฑ์เป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความละเอียดมาก ๆ การทำ Sale Pipeline จึงตอบโจทย์มาก ๆ เพื่อช่วยให้ทีมสามารถทราบได้ว่าเราควรทำอะไร และทำตอนไหน เพื่อติดตามทุก Deal ให้สามารถจบได้โดยปราศจากข้อผิดพลาดใด ๆ 

เพราะฉะนั้นการใช้ระบบ CRM ก็จะยิ่งทำให้การทำ Sale Pipeline นั้นละเอียดขึ้นไปอีก เพราะสามารถติดตามได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกยันปิด Deal การขายได้เลย และไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถติดตามเรื่องทั้งการส่งของ และชำระเงินต่ออีกด้วย 

ซึ่งระบบ Delivery Module ใน The Revenue Acceleration Platform ของ Wisible ก็จะมีบทบาทอย่างมากในขั้นตอนนี้ ให้ทีมขายสามารถติดตามการส่งของและชำระเงิน เพราะในกรณีสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ไม่สามารถส่งให้ครบได้ในรอบเดียว หรือลูกค้าต้องการให้แบ่งส่งสินค้าและยังไม่ทราบว่าจะต้องส่งทั้งหมดกี่งวด ระบบสามารถแตกการ์ด Deal หลักเป็นการ์ดย่อย ๆ เพื่อติดตามการส่งของและการชำระเงินหลายงวดได้อย่างสะดวก ไม่มีตกหล่นอย่างแน่นอน 

4. ลดความยุ่งยากของงานเอกสาร เพื่อโฟกัสการขาย

เซลส์หลาย ๆ คนอาจจะมีปัญหากับงานเอกสาร ที่กองอย่างมหาศาล ทำให้ไม่มีเวลาไปดูแลลูกค้าและการขายได้เท่าที่ควร ซึ่งก็อาจจะทำให้เราพลาด Deal จากลูกค้าไป แต่ The Revenue Acceleration Platform ของ Wisible จะช่วยขจัดปัญหาเหล่านี้ ตั้งแต่ทำใบเสนอราคา และระบบยังรองรับการออกใบเสนอราคาให้หลาย ๆ บริษัท รวมไปถึงแยกสินค้าที่ไม่มี Vat ได้ และที่สำคัญคือสามารถที่จะ Track ข้อมูลย้อนหลังได้อีกด้วย ในกรณีที่เกิดปัญหาใด ๆ ขึ้น 

ในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ที่ต้องอาศัยความละเอียดอย่างมาก เพื่อไม่ให้บริษัทของเราได้กำไรน้อยเกินไป หรือแม้กระทั่งขาดทุน ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน ซึ่ง 4 วิธีนี้ ที่ทางเรานำเสนอไป ก็คงช่วยให้บริษัทของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นขึ้นแน่นอน เพื่อไม่ให้ไปเสียเวลาโฟกัสผิดจุด 

หรือถ้าอยากได้ความสะดวกขั้นกว่า ลองนัดเดโม่กับทาง Wisible ดูสิคะ กับ The Revenue Acceleration Platform ที่เป็นมากกว่าระบบ CRM อื่น ๆ ด้วยความที่ออกแบบมาเพื่อช่วยคุณทำธุรกิจในเครือเคมีภัณฑ์โดยเฉพาะ และช่วยให้การขายง่ายขึ้นอีกเป็นกอง อย่ารอช้านะคะ กับโอกาสดี ๆ แบบนี้ 

Similar Posts